การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เมืองหิมะ (เช่น ไซบีเรียน ฮัสกี้, อลาสกัน มาลามิวท์, ซามอยด์) ในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นแบบไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถทำได้โดยการจัดการสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพราะความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือ ภาวะลมแดด
หรือ Heatstroke ก็สามารถเกิดขึ้นกับสัตว์อย่างสุนัขได้เหมือนกันครับ
5 มาตรการหลักในการเลี้ยงหมาเมืองหิมะในประเทศร้อน
1.การจัดการสภาพแวดล้อมที่จำเป็นที่สุด (Cooling)
มาตรการ | รายละเอียด | เหตุผล |
ห้องปรับอากาศ (Air Conditioning) | จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องมีพื้นที่ที่อุณหภูมิคงที่และเย็นสบายตลอดช่วงกลางวัน และในช่วงที่อากาศร้อนจัด (อุณหภูมิห้องควรอยู่ที่ ≈22−25∘C) | สุนัขพันธุ์เหล่านี้มีขนสองชั้นที่หนามาก ร่างกายจึงระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าสุนัขพันธุ์ขนสั้นทั่วไป |
การระบายอากาศ | หากต้องอยู่ภายนอกห้องแอร์ ต้องเป็นพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีร่มเงาตลอดวัน และมีพัดลมเป่าจ่อตัว | ช่วยให้ความร้อนที่สะสมในชั้นขนระบายออกไปได้ดี ป้องกันการสะสมความร้อน |
น้ำเย็นและน้ำแข็ง | เตรียมน้ำสะอาดและเย็นจัดไว้ตลอดเวลา อาจใส่ก้อนน้ำแข็งในชามน้ำ หรือมีบ่อน้ำเล็กๆ ให้สุนัขแช่ตัวได้ (ถ้ามีการดูแลผิวหนังที่ดี) | การดื่มน้ำช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายจากภายใน |
2.การบริหารจัดการกิจกรรมและการออกกำลังกาย
มาตรการ | รายละเอียด | เหตุผล |
ช่วงเวลาออกกำลังกาย | จำกัด การออกกำลังกายหนักๆ ให้อยู่ในช่วง เช้ามืด (ก่อน 7 โมงเช้า) หรือ ยามค่ำคืน (หลัง 2 ทุ่ม) เท่านั้น | หลีกเลี่ยงช่วงที่แดดจัดและร้อนที่สุดของวัน (10.00 – 17.00 น.) ซึ่งเป็นช่วงเสี่ยงต่อ Heatstroke สูงสุด |
ระวังพื้นผิวร้อน | ห้ามพาสุนัขเดินบนพื้นปูนหรือพื้นยางมะตอยที่ร้อนจัด เพราะจะทำให้ อุ้งเท้าไหม้ และความร้อนจะส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว | สุนัขจะถ่ายเทความร้อนผ่านอุ้งเท้า การสัมผัสพื้นผิวร้อนจึงอันตรายมาก |
กิจกรรมทางเลือก | ควรส่งเสริมกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้กำลังมาก หรือกิจกรรมทางน้ำ เช่น การว่ายน้ำ (ต้องเป่าขนให้แห้งสนิทหลังว่าย) | ลดภาระการระบายความร้อนของร่างกาย |
3.การดูแลขนและผิวหนัง (Coat Care)
มาตรการ | รายละเอียด | เหตุผล |
ห้ามโกนขน (เด็ดขาด) | ไม่ควร โกนขนสุนัขพันธุ์นี้จนสั้นกุด | ขนสองชั้นทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนภายนอกและรังสี UV การโกนขนจะทำให้ผิวหนังสัมผัสความร้อนและแสงแดดโดยตรง เสี่ยงต่อผิวไหม้และทำให้การระบายความร้อนในระยะยาวแย่ลง |
การแปรงขน | แปรงขนทุกวันหรือบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงผลัดขน (Shedding Season) เพื่อเอาขนชั้นใน (Undercoat) ที่ตายแล้วออก | ขนที่หนาแน่นเกินไปจะกักเก็บความร้อนและทำให้ผิวหนังอับชื้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังและเชื้อรา |
4.การสังเกตและปฐมพยาบาลเบื้องต้น (Heatstroke)
สัญญาณอันตรายที่ต้องสังเกต:
- หอบหนักและหายใจเร็ว: หอบรุนแรงผิดปกติ หรือหายใจเสียงดัง
- น้ำลายไหลยืด: น้ำลายเหนียวและยืดผิดปกติ
- ลิ้นและเหงือกมีสีแดงเข้ม: บ่งบอกถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงมาก (ปกติควรเป็นสีชมพู)
- อ่อนแรง/เดินเซ/หมดสติ: แสดงว่าอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่าที่สมองจะทนได้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น (สำคัญที่สุด):
- ย้าย: นำสุนัขไปสู่ที่ร่มหรือห้องที่มีเครื่องปรับอากาศทันที
- ลดอุณหภูมิ: ใช้ น้ำเย็น (ไม่ใช่เย็นจัดหรือน้ำแข็ง) ราดตัวสุนัข หรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดบริเวณ รักแร้, ขาหนีบ, และใต้อุ้งเท้า
- เปิดพัดลม: เปิดพัดลมจ่อตัวเพื่อช่วยให้การระเหยของน้ำดึงความร้อนออกจากร่างกาย
- ห้ามใช้น้ำแข็ง: น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดเกินไปจะทำให้เส้นเลือดหดตัวและชะลอการระบายความร้อน
- รีบพบสัตวแพทย์: แม้อาการจะดูดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะภาวะ Heatstroke อาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายใน (เช่น ไต) โดยที่เราไม่รู้
5. โภชนาการและการจัดการน้ำ
- เน้นน้ำ: ต้องเปลี่ยนน้ำในชามบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำสะอาดและเย็นอยู่เสมอ
- อาหาร: ควรให้อาหารที่มีคุณภาพและควบคุมปริมาณเพื่อไม่ให้สุนัขเป็นโรคอ้วน ซึ่งจะทำให้การระบายความร้อนทำได้ยากยิ่งขึ้น
เท่านี้ก็หมดกังวลเรื่องน้องจะไม่สบาย หรือ ไม่สามารถเข้ากับอากาศร้อนได้แล้วครับ ทำตามได้เลยไม่ต้องลุ้นเหมือนหวยไวให้ปวดหัว
Comments are closed